สาเหตุของคนเข้าวัดยาก
---วัดคือสถานที่บำเพ็ญกุศลของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และเป็นสถานที่อยู่อาศัยของนักบวชมีพระภิกษุสามเณรเป็นต้น วัดจึงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธทั้งหลาย มาแต่ครั้งพุทธกาล หากแต่ในปัจจุบันนี้ยังมีพุทธศาสนิกชนหลายคนไม่อยากเข้าวัด เพราะเหตุอันใด..
---๑.เพราะไม่มีเวลา คำว่า “ ไม่มีเวลา-เวลาไม่พอ” มักเป็นคำกล่าวอ้างของคนที่มีภาระกิจการงานหลากหลายสาขาอาชีพพูดกันบ่อย ๆ และคิดกล่าวว่า เวลาไม่พอกับงานที่ตนเองทำ” พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา แปลความหมายว่า กาลเวลาย่อมกลืนกินชีวิตของสรรพสัตว์โลกพร้อมด้วยตัวของมันเอง ไม่มีสัตว์ในโลกนี้แม้ผู้ใดเลยเรียกร้องเวลาที่หมดไปให้กลับคืนมาได้อีกทั้ง ที่เวลาจริง ๆ เลยมีเพียงแค่กลางวันและกลางคืนเท่านั้น
---๒.เพราะแสวงหาเงินใช้ เงินคือปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ทั้งหลาย ทุกคนต่างแสวงหาเงินจะได้มาโดยสุจริตหรือทุจริตก็ตาม เพราะอำนาจเงินนั้นสามารถบันดาลมนุษย์ให้ตกอยู่ในตัณหา คือ ความอยากอย่างไม่มีวันจบสิ้น แต่ไม่มีใครนำเงินไปสู่ปรโลกได้แม้สักคนเดียว
---๓.เพราะไม่สบายด้วยทุกข์ “ทุกข์ที่เกิดจากใจ ทุกข์เพราะหาปัจจัยสี่ไม่พอ ทุกข์เพราะก่อหนี้สินเป็นต้น” เป็นความทุกข์ที่มนุษย์เราประสบพบเจอกันอยู่เป็นประจำ ต่างพากันแสวงหาและพยายามไขว่คว้าว่าในโลกนี้อะไรคือ ความสุขอันแท้จริง นอกจากวัดอันเป็นที่ประดิษฐานแนวทางเดินไปสู่ความสุขเหล่านั้น ด้วยพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพแล้ว ก็จะไม่มีที่อื่นใดในโลก
---๔.เพราะหมดสนุกทางโลก โลกสันนิวาสนี้มีความงดงามตระการตาไปด้วยไฟราคะไฟโทสะและไฟโมหะที่แผดเผา อยู่เป็นประจำ แต่คนเรายังมีความสนุกสนานร่าเริงท่ามกลางกองไฟเหล่านั้น โดยไม่นึกหวาดกลัวใดๆ หากไม่มีพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาช่วยให้มองเห็นสัจธรรมแล้วไซร้ ใครเล่า.. จะเดินพ้นจากความสนุกสนานทั้งหลายได้
---๕.เพราะเศร้าโศกอกตรม “ชายหญิงที่มีความรักต่อกันบางคนก็สมหวังในความรักนั้น บางคนก็ไม่สมหวังคละเคล้ากันไป ความสมหวังและความผิดหวังเหล่านั้น ต่างก็มีวัดวาพระศาสนาเป็นเครื่องรองรับทั้งสิ้น เมื่อจะแต่งงานก็มีพระสงฆ์เป็นผู้ประกอบพิธีให้คู่บ่าวสาว เมื่ออกหักผิดหวังมาก็ได้วัดเป็นที่พักใจ
---๖.เพราะขื่นขมชีวิต เมื่อมีความสุขกายสบายใจมักมองไม่เห็นวัด แม้จะมาบำเพ็ญบุญกุศลตามกาลที่เป็นวันสำคัญในทางศาสนาก็ยากลำบาก หากแต่เวลาใดความทุกข์เกิดขึ้นมาแล้ว ต้องได้อาศัยวัดเป็นเครื่องบรรเทาทุกข์เหล่านั้น วัดจึงเป็นที่พักพิงในยามทุกข์ยากของชีวิต
---๗.เพราะหมดลิมิตอายุขัย “ เกิดมาทั้งที่ควรทำความดีเอาไว้ จะตายทั้งทีควรฝากความดีเอาไว้” ความตายไม่มีใครหลีกหนีพ้นไปได้ และไม่มีใครอยากจะเจอ มนุษย์ทุกคนต่างก็มีความตายเป็นเบื้องหน้าเพียงแต่ใครจะตายก่อนหรือหลังช้า หรือเร็วเท่านั้น เมื่อท่านได้ตายลงญาติพี่น้องต้องนำศพท่านมาฌาปนกิจที่วัดแน่นอน ท่านจะทำบุญกุศลที่วัดด้วยตัวของท่านเองหรือ ท่านจะให้คนอื่นหามเข้ามา....
*ยังมีต่อ......อีกนิดๆๆๆ
---เข้าวัดแล้วกลายเป็นคนบ้า เป็นความคิดฝังแน่นอยู่ในจิตใจของสังคมชาวไทยในยุคปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากความไม่รู้และไม่ศึกษาพุทธศาสนาอย่างแท้จริงนั่นเอง สังคมชาวไทยในยุคปัจจุบัน จึงได้มีความเสื่อมถอยทางด้านจิตใจเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศพม่า ซึ่งเมื่อถ้ามีเวลาว่าง หรือวันสำคัญทางพุทธศาสนาประเพณีและจริยธรรมของคนพม่า ก็จะเข้าวัดกันตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ ไป จนถึง ผู้เฒ่าผู้แก่เลยทีเดียว เราคนไทยก็จงรีบตื่นตัวเถิด อย่าได้ลืมเลือนวัฒนธรรมของบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมมาเลย ...........
(หมายเหตุ..แต่พอสิ้นลม กลับต้องเข้าวัดกัน อย่างนี้เป็นบ้าหรือไม่)
อย่างไหนแบบไหน จึงเรียกว่า......บ้า
............................................................................
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
โดย.......เปลวเทียน
รวบรวมโดย...แสงธรรม
อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 1 ตุลาคม 2558
(แก้ไขแล้ว ป.)
0 ความคิดเห็น