วิธีอุทิศกุศล ๑ ปีมีครั้งเดียว
---เพราะการอุทิศกุศลต่างๆ อย่างที่เราทำกันอยู่ทุกวันก็ดีทั้งนั้น แต่ส่วนที่จะให้ถึงกับบุคคลที่เราจะอุทิศให้นั้นได้รับบุญที่เราส่งไป แล้วส่วนใหญ่มักไม่ได้รับ
*ถาม
---การ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้น บางท่านก็บอกว่าผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้น ไม่ได้รับส่วนบุญนั้นทุกคน จึงอยากถามว่า "ผู้ที่ล่วงลับไป ที่จะได้รับส่วนบุญที่อุทิศไปให้ มีพวกไหนบ้าง และผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับส่วนบุญที่ญาติทำบุญอุทิศไปให้นั้นมีพวกไหนบ้าง เพราะอะไร"
*ตอบ
---ทำบุญให้ผู้ตายนี้ท่านแสดงไว้ว่ายากนัก ผู้ที่ตายจะได้รับ เหมือนกับงมเข็มอยู่ในก้นบ่อ แต่ผู้ยังมีชีวิตอยู่ก็ชอบทำ นับว่าเป็นความดีของผู้นั้นอย่างยิ่ง ท่านเปรียบไว้ สมมุติว่าบุญที่ทำลงไปนั้นแบ่งออกเป็น ๑๖ ส่วน แล้วเอาส่วนที่ ๑๖ นั้นมาแบ่งอีก ๑๖ ส่วน ผู้ตายไปจะได้รับเพียง ๑ ส่วน เท่านั้นฟังดูแล้วน่าใจหาย
---เพราะฉะนั้นเราทั้งหลายจึงไม่ควรประมาท ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่นี้ มีสิ่งใดควรจะทำก็ให้รีบทำเสียตายไปแล้วเขาทำบุญไปให้ ไม่ทราบว่าจะได้รับหรือไม่ ถึงแม้ได้รับ ก็น้อยเหลือเกิน เพราะคนตายแล้ว เขาเรียกว่า "เปรต" ไม่ได้เรียกว่า บิดา, มารดา, ป้า, น้า, อา, ครูบาอาจารย์ อย่างเมื่อเป็นมนุษย์อยู่นี้หรอก ในบรรดาเปรตเหล่านั้นมี ๑๑ พวก
---มีจำพวกเดียวที่จะได้รับส่วนบุญ ที่คนยังมีชีวิตอยู่อุทิศไปให้ เรียกว่า "ชีวิตูปรัตตเปรต" เปรตจำพวกนี้ ได้รับทุกข์ร้อนลำบากมาก เพราะในเปรตโลกนั้น ไม่มีการทำนา ค้าขาย แม้แต่ขอทานก็ไม่มี เสวยผลกรรมของตนๆ ที่ทำไว้ เมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่นี้เท่านั้น ฉะนั้น เปรตจำพวกนี้แหละ มนุษย์คนที่ยังเป็นอยู่ทำบุญอุทิศไปให้จึงจะได้รับ เปรตนอกนั้นแล้วไม่ได้รับเลย
---เช่น ตายไปเกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่ได้รับ นับประสาอะไร บางทีสามีภรรยานอนอยู่ด้วยกันแท้ ๆ ฝ่ายหนึ่งทำบุญขอให้อีกฝ่ายหนึ่งอนุโมทนาด้วย ก็ไม่รับ พวกที่ไปเกิดเป็นเดรัจฉาน ยิ่งไม่รู้กันใหญ่ ไปเกิดในนรกหมกไหม้ทุกขเวทนามาก ทำบุญอุทิศไปให้ก็ไม่รู้อะไร เพราะกำลังเสวยผลกรรมอันนั้นอยู่ หรือไปเกิดเป็นเทวดาชั้นใดชั้นหนึ่งก็เหมือนกัน เขากำลังเสวยผลบุญของเขาอยู่ เขาจะมาเอากุศลผลบุญของเราได้อย่างไร
*แต่ก็พอมีทางที่จะอุทิศให้อยู่ 2 วิธี คือ....
---1.เจริญกัมมัฏฐานจนสภาวะของจิตได้ถึงอารมณ์ตั้งแต่ปฐมฌาน เป็นต้นไป (หมายเหตุ : ได้เพราะเป็นมหากุศลจิตที่ใหญ่มาก พอที่จะมีกำลังจิตกำลังกุศลที่จะส่งไปถึง )
---2.ทำบุญอุทิศให้ในวันสำคัญของพระพุทธศาสนา ( มีเฉพาะวันเทโวโรหณะ) คือ เป็นวันพระเจ้าเปิดโลกเท่านั้น เพราะ สวรรค์-มนุษย์-นรก 31 ภูมิ เป็นที่เสมอถึงกัน ด้วยพระพุทธานุภาพของพระพุทธองค์นั้นเอง ซึ่งจะต้องตรง วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี หรือ ออกพรรษาแล้ว ๑ วัน หลังจากที่เราทำบุญเช้าเสร็จโดยเรียบร้อยแล้ว จึงอุทิศให้ได้ตั้งแต่เช้า วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ นั้น ได้ตั้งแต่ 6 .00 น . จนถึง 6.00 น. ของวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๑ โดยให้จุดธูป ๓๑ ดอก คือ ถึง พรหม ๒๐ ชั้น, สวรรค์ ๖ ชั้น, มนุษย์ ๑ ชั้น, อบายภูมิใหญ่ ๔ ชั้น, รวมแล้วจึงได้ ๓๑ ดอก
---แล้วให้ ตั้งนะโมขึ้น ( ๓ จบ ) ต่อด้วย : คาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ : คือ นะโม พุทธายะ ต่อด้วยคาถาพระเจ้าเปิดโลก คือ อิติ สุคะโต โลกวิทู ข้าพเจ้า....................... อธิฏฐามิ
---แล้วให้อ้างอำนาจสัจจะอธิฐาน การที่ได้เกิดในสภาวะของมนุษย์ ๑ การที่เราได้เคยทำกุศลผลบุญ ตั้งแต่ในสังสารวัฏฏอันหาประมาณไม่ได้จนถึงปัจจุบันชาตินี้ จงเป็นอำนาจกุศลเจตนาอุทิศให้แก่บุคคลเหล่านี้
---คือ .........................มีความสุขเถิด ฯ
---เท่านี้ก็ได้รับแล้ว เจริญธรรมฯ
......................................................................
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล
รวบรวมโดย...แสงธรรม
(แก้ไขแล้ว ปานรดา)
ทีมา..ในพระธรรมบทของพระพุทธศาสนา
ปรับปรุงครั้งที่ 5 วันที่ 6 ตุลาคม 2556
0 ความคิดเห็น