หางพญานาค
---ที่มองเห็นอยู่นี้ เป็นท่อนกระดูกส่วนหางตัวผู้สีทอง ส่วนเล็ก ๆ ที่มองเห็นนั่นคือ ฟอสซิลของนาคตัวเมียสีเขียวและลูก ๆ บางส่วนหลวงพ่อได้บรรจุในองค์เทพนาคี-นาคาและได้นำไปประดิษฐานบนเขาแล้ว จึงเหลืออยู่ในส่วนที่เห็นเท่านั้น หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ครั้งหนึ่งปฏิบัติธรรมภายในถ้ำได้ไปเจอหางพญานาคนี้จึงได้นำมาแต่เฉพาะส่วนหาง และในภายหลังได้เกิดเหตุบางประการขึ้นจึงได้กลับไปนำส่วนฟอสซิลของตัวเมียกลับมา"
---สาเหตุฯ ที่หลวงพ่อได้เจอและต้องนำกลับมา เพราะหลวงพ่อได้อธิษฐานจิตในถ้ำที่ได้ปฏิบัติธรรม "ด้วยจะสร้างองค์พระมหาเจดีย์" และพญานาคตัวผู้สี ทองได้รับรู้ซึ่งแรงอธิษฐานนี้ จึงได้ปรากฏส่วนหางขึ้นมา เพื่อขอมีส่วนร่วมในการสร้างบุญในพระพุทธศาสนาครั้งนี้กับหลวงพ่อด้วย ซึ่งหลวงพ่อบอกลูกศิษย์ให้นำส่วนหางมาไว้ที่บ้านของลูกศิษย์ก่อน ประมาณ 15 วัน ระยะทางจากถ้ำถึงบ้านฯ ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร
---ส่วนหลวงพ่อก็ปฏิบัติธรรมในถ้ำต่อ ภายหลังในวันพระขึ้น 15 ค่ำ เกิดเหตุการณ์ที่หางพญานาคตัวผู้สีทองได้ส่งเสียงร้องขึ้น ลูกศิษย์ก็ตกใจจึงเดินทางกลับมาหาหลวงพ่อที่ถ้ำ ในอีก 3 วันและได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง หลวงพ่อก็บอกว่าทางในถ้ำก็มีเหตุเกิดขึ้นเช่นกัน คือ ฟอสซิลที่อยู่ในถ้ำก็ส่งเสียงร้องออกมาและบนเขาก็มีลม, ฝนตกอย่างมาก
---เหตุที่เกิดนี้ เป็นการร้องเรียกหาระหว่างตัวผู้กับเมียและลูก ๆ ซึ่งพรากจากกัน พร้อมทั้งแสดงปาฏิหารย์บางอย่างและสงบลงได้ ก็เพราะหลวงพ่อได้ให้สัญญากับฟอสซิลตัวเมียและลูก ๆ ว่าจะนำกลับไปเจอกับท่อนส่วนหาง เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในบุญครั้งนี้ด้วย
---ระยะเวลาในการนำหางพญานาคกลับมาไว้ที่วัด ก็ประมาณ 10 ปีล่วงมาแล้ว
---ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการก่อสร้างเจดีย์องค์ปฐมขึ้นก่อน ภายในบรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า "กัสสปะ" เป็นองค์ที่พญานาคได้เก็บรักษาไว้ในปาก ได้มอบองค์พระบรมฯ ไว้ให้ในคราวที่หลวงพ่อธุดงค์ครับฯ
(หมายเหตุ เรื่องทั้งหมดที่ได้เขียนมานี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
...............................................................................
รวบรวมโดย...แสงธรรม
อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 1 ตุลาคม 2558
(แก้ไขแล้ว ป.)
0 ความคิดเห็น