ประวัติพระอธิการชิติสรรค์ จิรวฑฺฒโน (จักกภูมิ)
*๑.ตำแหน่ง
---ชื่อ...พระอธิการ ชิติสรรค์ ฉายา จิรวฑฺฒโน อายุ ๔๘ พรรษา ๑๘ จบนักธรรมเอกและเปรียญธรรม ที่วัดสุวรรณภูมิ อำเภอเมือง จังหวัด สุพรรณบุรี
*๒.ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง
---๑.เจ้าอาวาสวัดเขาไกรลาศ
---๒.สถานะเดิม
---ชื่อ...ชิติสรรค์ นามสกุล จักกภูมิ เกิดวัน ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ วันที่ ๑๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๖
---บิดาชื่อ นายจำลอง จักกภูมิ
---มารดาชื่อ นางจรรยงค์ จักกภูมิ
---อยู่บ้านเลขที่ ๑๗๐ หมู่ที่ ๓ ตำบลศรีประจันต์ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
*๓.บรรพชา
---ครั้งสุดท้ายเมื่อ วันที่ ๒๒ เดือนธันวาคม พ. ศ.๒๕๓๕ พัทธสีมาวัดสุวรรณภูมิ ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีพระอุปัชฌาย์ พระปริยัติคุณาภรณ์ วัดสุวรรณภูมิ ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
*๔.อุปสมบท
---วันที่ ๒๒ เดือน ธันวาคม พ. ศ. ๒๕๓๕ พัทธสีมาวัดสุวรรณภูมิ ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี พระปริยัติคุณาภรณ์ วัดสุวรรณภูมิ ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
*พระอุปัชฌาย์
---พระมหาเชษฐา ฉินฺนาลโย ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
---พระมหาโกมินทร์ ฐิตาโภ ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
*๕.วิทยฐานะ
---๑.สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนวัดไก่เตี้ย อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ..........ฯ
---๒.ต่อมาจบนักธรรมโท ณ วัดดอนบุปผาราม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
---๓.จบนักธรรมเอกและเปรียญธรรม ที่วัดสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากนั้นทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา รุ่นที่ ๒๘ และได้รับการอบรมจากสถาบันต่างๆ โดยอบรมที่มหาวิทยาลัย ธ. ธรรมศาสตร์เป็นที่สุดท้าย
*๖.งานด้านการปกครอง
---๑.พ.ศ.๒๕๕๐ รักษาการสำนักสงฆ์เขาไกรลาศ ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
---๒.พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาไกรลาศ ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
---๓.มีการทำวัดสวดมนต์ เช้า – เย็น ตลอดปี
---๔.เป็นผู้ออกกฎระเบียบการบริหารและปกครองวัดเขาไกรลาศ............
ประวัติหลวงพ่อวัดเขาไกรลาศ
(ภาคผนวก)
*นาม
--พระอธิการ ชิติสรรค์ จิรวฑฺฒโน ( จักกภูมิ)
*เกิด
---วันที่ 19 ธันวาคม 2506 ณ.สถานพยาบาลผดุงครรภ์ ตลาดศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
*การศึกษา
---จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสันติประชา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี และ การศึกษาต่อๆ ไป............ฯ
*ชีวิตฆารวาส
---หลังจบประถมศึกษาปีที่ 4 ก็ได้ใช้ชีวิตเหมือนบุคคลทั่วไป เริ่มต้นด้วยการเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์ ต่อมาก็ได้ทำหน้าที่ขับรถ DRAG LINE เป็นกระเป๋ารถเมล์รถทัวร์ ช่างซ่อมรถและอื่นๆ จนสุดท้ายก่อนบวชก็ได้ทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์[US]เป็นอันดับสุดท้าย
*เพศบรรพชิต
---อุปสมบทเมื่ออายุ 20 ปี ณ.วัดไก่เตี้ย (อ.จวน) ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย และ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนจบนักธรรมชั้นตรี ที่วัดแห่งนี้ หลังต่อมาจบนักธรรมชั้นโท ณ.วัดดอนบุปผาราม ต.
*เผยแผ่พระพุทธศาสนา
---ช่วงเป็นมหาเปรียญธรรม ท่านได้ทำหน้าที่สอนธรรม ที่วัดพระอารามหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่วัดต่างๆ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี และใน จ.กาญจนบุรีโดยออกเดินทางจากวัดสุวรรณภูมิไปยัง วัดพระอารามหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น ระยะทางประมาณ 50 กม. จากวัดสุวรรณภูมิไปยังวัดต่างๆ ใน อ.สามชุกระยะทางประมาณ 70 กม. และจากวัดสุวรรณภูมิไปยังวัด ใน จ.กาญจนบุรีเป็นระยะทางประมาณ 100 กม. การเดินทางไปสอนธรรมในแต่ละครั้ง ทั้งขาไปและขากลับใช้การเดินเท้าทั้งสิ้น หากญาติโยมท่านไหนขับรถผ่านไปผ่านมาแล้ว มีจิตศรัทธาจอดรับหลวงพ่อให้ขึ้นไปด้วย ท่านก็ไม่ขัดศรัทธาแต่หากไม่มีท่านก็เดินจนถึงที่หมาย
*ปฏิบัติธรรมในถ้ำอึมครึม ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
---กลางดึกคืนหนึ่งในปี 2533 หลวงพ่อกำลังดูทีวีอยู่ประมาณตี 2 กว่าๆ ที่วัดสุวรรณภูมิปรากฏว่าภาพรายการที่ดูอยู่ก็หายไป แล้วจึงปรากฏภาพของแม่อึมครึมและภาพถ้ำในเขาอึมครึมแทน จากนั้นแม่อึมครึมได้นิมนต์หลวงพ่อให้ไปโปรดดวงจิตดวงวิญญาณพร้อมทั้ง ปฏิบัติธรรมที่นั่นด้วย โดยให้ไปหาพรานต้าเพื่อพาหลวงพ่อขึ้นถ้ำ เพื่อพิสูจน์ความจริงท่านจึงเดินทางไปที่เขาอึมครึมจนได้พบกับพรานต้า ช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำหลากมีน้ำท่วมเป็นระยะๆทำให้ท่านต้องเดินลุยน้ำเข้าไปหาพรานต้า
---เมื่อพบกันแล้วจึงเดินทางขึ้นเขาอึมครึมด้วยกัน หลังจากนั้นท่านจึงปฏิบัติธรรมที่นั่นเป็นเวลา 14 ปี เนื่องจากชาวบ้านบริเวณเขาอึมครึมยังยากจนกัน ใน 7 วันท่านจึงได้ฉันอาหาร 1 ครั้ง ในช่วงที่น้ำหลากทำให้การทำมาหากินและการเดินทางของชาวบ้านเป็นไปด้วยความ ยากลำบาก บางครั้งท่านก็ได้เคยโปรดญาติโยมโดยลงจากเขาเข้าไปทำธุระที่วัดสุวรรณภูมิ ขากลับจึงได้แบกแบกข้าวสารไปฝากในช่วงที่น้ำหลากนั้นด้วย
*โปรดญาติโยม
---ปฏิบัติธรรมในถ้ำเป็นเวลา 14 ปี เห็นว่าเป็นการเพียงพอแล้ว จึงลงจากเขาเพื่อสอนธรรมญาติโยมซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคณะครูและแพทย์ อยู่ที่นครปฐมเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี คณะศิษย์เห็นว่าหลวงพ่อไม่มีที่สอนธรรมแบบถาวรและทราบว่าหลวงพ่อมีเจตนาที่ จะสร้างพระมหาเจดีย์ จึงได้ร่วมกันซื้อที่ดิน ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อสร้างเป็นวัดและนิมนต์หลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาสเพื่อทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาและดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์ต่อไป
*สถานที่ปฏิบัติธรรม
---ในระหว่างที่หลวงพ่อพำนักอยู่ที่วัดเขาไกรลาศ และเป็นช่วงที่กำลังดำเนินการสร้างพระมหาเจดีย์อยู่นั้น ท่านก็ได้ทำหน้าที่สอนญาติโยมให้ฝึกปฏิบัติธรรมพร้อมๆกันไปด้วย โดยได้สร้างสวนปฏิบัติธรรมเวฬุวันและกุฏิแฝกเพื่อเป็นที่พักสำหรับผู้ที่ ต้องการเข้ารับการฝึกปฏิบัติธรรม
*ทานบารมี
---ช่วงระยะเวลาที่สอนธรรมญาติโยมที่นครปฐม ท่านจะพาคณะศิษย์ไปทำบุญ ณ.สถานที่ต่างๆมิได้ขาด ไปกันเป็นคณะขับรถตามกันไปเป็นสายยาว หากท่านมีทรัพย์ท่านจะต้องรีบหาเหตุทำบุญทันทีจนเป็นที่รู้กันของคณะศิษย์ ปัจจุบันท่านไม่สามารถไปไหนได้สะดวกเหมือนสมัยก่อนได้อีกแล้ว เพราะมีภาระในการสร้างวัด ท่านจึงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการทำบุญให้แก่ญาติโยม ญาติโยมบางท่านประสบปัญหาชีวิตก็เข้ามาปรึกษา ก็ได้รับการแนะนำให้แก้ไขในเรื่องที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลกันไป ส่วนใหญ่แก้อย่างแรก ดูว่าคนไหนที่มีชื่อหรือนามสกุลที่ไม่ส่งเสริมดวงชะตาท่านก็แก้ไขให้เป็น อย่างๆไปทั้งภายในและภายนอก
---โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพราะท่านก็ถือว่านี่คือทานบารมีอย่างหนึ่ง เมื่อญาติโยมเปลี่ยนชื่อจนได้ดีกันไปแล้วถ้าเขาเหล่านั้นยังระลึกนึกถึง ท่านอยู่ ก็จะกลับมาทำบุญกับท่านเอง ญาติโยมที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อกันไปจนชะตาชีวิตเริ่มดีขึ้น ก็บอกต่อๆกันไป จนมีผู้ที่ต้องการเปลี่ยนชื่อเข้ามาหากันอย่างต่อเนื่อง ผู้เขียน(ลูกศิษย์ใกล้ชิด)ทราบมาว่าท่านได้ทำการศึกษาเรื่องชื่อและนามสกุล มาเป็นระยะเวลา 19 ปี จนมีความรู้อย่างแตกฉานเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2552
---ท่านมีความรู้ทางภาษาบาลี-สันสกฤต อย่างลึกซึ้ง ท่านเคยสอนว่าการให้สิ่งที่ไม่ดีกับใครไป มันเป็นกรรมอย่างหนึ่งที่หวนคืนกลับมายังผู้ที่ให้ โดยเฉพาะท่านเป็นพระก็จะเป็นกรรมหนักกว่าฆารวาสทั่วๆไป ดังนั้นแล้วถ้าไม่ใช่สิ่งที่ดีงามที่เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆแล้วท่านจะไม่แนะ นำให้ทำเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญแก้ไขดวงชะตา หรือการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
---ผู้เขียนก็เคยสังเกตเห็นการทำบุญของท่าน ถ้าเป็นปัจจัยท่านจะเทหมดกระเป๋า ถ้าเป็นวัตถุทานท่านจะเน้นของดี มีคุณค่า มีคุณภาพสูง เมื่อใช้แล้วไม่ต้องซ่อมแล้วซ่อมอีก เสียปัจจัยรวมๆกันแล้วมากกว่าการซื้อของดีเพียงครั้งเดียว และจากการเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของท่านก็ได้ค้นพบสัจธรรมเกี่ยวกับการให้ว่ามี ความสุขมากกว่าการรับโดยเทียบกันไม่ได้เลย หากท่านใดที่มีปัญหาชีวิตคิดไม่ตก ก็สามารถมาขอความเมตตา รับการแนะนำจากท่านได้.
................................................................................
(หมายเหตุ: เป็นประวัติย่อโดยสังเขปของพระอาจารย์ครับ)
เรามาศึกษาคลิปประวัติพระพุทธเจ้ากันดีกว่า...นะขอรับ
อัพเดทรอบที่ 6 วันที่ 21 สิงหาคม 2558